“อะมีบากินสมอง” ภัยเงียบจากน้ำธรรมชาติ อาจารย์แพทย์ มช. แนะประชาชนอย่าชะล่าใจ แม้น้ำดูใสสะอาด

16 กรกฎาคม 2568
คณะแพทยศาสตร์

แพทย์และทีมคณาจารย์ ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. ออกเตือนประชาชน หลีกเลี่ยงล้างจมูกด้วยน้ำประปา และควรระวังขณะเล่นน้ำในแหล่งธรรมชาติ แม้ความเสี่ยงต่ำ แต่อันตรายร้ายแรงถึงชีวิต


แม้จะพบได้น้อยมากในประเทศไทย แต่โรค “อะมีบากินสมอง” หรือ Primary Amoebic Meningoencephalitis (PAM) ถือเป็นภัยสุขภาพที่รุนแรงและมักจบลงด้วยการเสียชีวิตภายในไม่กี่วัน ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้และสัมผัสน้ำจากแหล่งธรรมชาติ หรือแม้แต่น้ำประปาในบางกรณี พร้อมแนะนำแนวทางป้องกันที่ทุกคนสามารถทำได้


อะมีบากินสมองคืออะไร?
อะมีบากินสมอง คือเชื้อปรสิตเซลล์เดียวในกลุ่มอะมีบา ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Naegleria fowleri พบได้ทั่วโลก ทั้งในดิน แหล่งน้ำจืดธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ทะเลสาบ น้ำพุร้อน รวมถึงแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สระว่ายน้ำหรือถังเก็บน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน
ประเทศไทยพบเชื้อชนิดนี้ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในแหล่งน้ำจืด ไม่พบในน้ำทะเล และปัจจุบันยังไม่มียารักษาที่จำเพาะสำหรับเชื้อชนิดนี้


ภัยเงียบที่คร่าชีวิต
แม้จะพบได้น้อยมาก แต่อะมีบากินสมองกลับอันตรายถึงชีวิต ข้อมูลผู้ติดเชื้อในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2525 – 2564 มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสมเพียง 17 ราย แต่เสียชีวิตถึง 14 ราย และส่วนใหญ่เสียชีวิตภายใน 1–2 สัปดาห์หลังแสดงอาการ
ด้วยเหตุนี้ โรคนี้จึงถือเป็น “ภัยเงียบ” ที่ประชาชนมักไม่ตระหนักถึง โดยเฉพาะเมื่อยังไม่มีแนวทางการรักษาที่ชัดเจน


ใครเสี่ยง? ติดได้อย่างไร?
ผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้แก่ ผู้ที่เล่นน้ำในคลอง บึง น้ำตก หรือแม้แต่ในสระว่ายน้ำหรือสวนน้ำที่ไม่ได้รับการดูแลที่ดี รวมถึงผู้ที่ใช้น้ำประปาล้างจมูกโดยตรง


การติดเชื้อเกิดจากการที่น้ำที่มีเชื้อ Naegleria fowleri เข้าทางโพรงจมูก เชื้อจะไต่ขึ้นผ่านเส้นประสาทรับกลิ่นไปยังสมอง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบรุนแรง


อาการหลังติดเชื้อ ได้แก่ ปวดหัว มีไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ก่อนพัฒนาเป็นคอแข็ง และมีภาวะทางระบบประสาทอย่างรวดเร็ว หากไม่วินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว มักเสียชีวิตในเวลาอันสั้น การให้ประวัติการว่ายน้ำ เล่นกีฬาทางน้ำหรือกิจกรรมในแหล่งน้ำธรรมชาติ การล้างโพรงจมูกด้วยน้ำประปา จะช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้เร็วขึ้น


เคยเกิดในไทยแล้ว
กรณีล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2565 เมื่อชาวเกาหลีที่พำนักในประเทศไทย 4 เดือน กลับไปประเทศแล้วเสียชีวิตด้วยภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา แพทย์วินิจฉัยภายหลังว่าเป็นโรคอะมีบากินสมอง


น้ำประปาปลอดภัยหรือไม่?
น้ำประปาที่ได้มาตรฐานถือว่าปลอดภัยจากเชื้อชนิดนี้ อย่างไรก็ตาม หากมีการนำน้ำไปพักไว้ในถังเก็บน้ำก่อนใช้งาน อาจมีการปนเปื้อนเชื้อชนิดนี้จากการแตกรั่วซึมของระบบท่อส่ง และปริมาณคลอรีนในถังพักน้ำอาจลดลงจนฆ่าเชื้อไม่ได้
ที่สำคัญคือ “ไม่ควรใช้น้ำประปาในการล้างโพรงจมูกโดยตรง” เพราะเป็นทางเข้าสำคัญของเชื้อ หากจำเป็น ควรต้มน้ำก่อนใช้งาน หรือใช้ “น้ำเกลือปราศจากเชื้อ” ในการล้างโพรงจมูก


แนวทางป้องกันสำหรับประชาชน
• หลีกเลี่ยงการใช้น้ำประปาล้างโพรงจมูก โดยเฉพาะน้ำจากถังเก็บ
• ใช้น้ำเกลือปราศจากเชื้อในการล้างจมูก และควรเป็นขวดขนาดเล็ก ใช้ครั้งเดียว
• หากต้องว่ายน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ หรือสระน้ำที่ไม่มั่นใจ ควรสวมที่หนีบจมูกเสมอ
• หากสำลักน้ำเข้าจมูก ควรสั่งน้ำมูกออกทันที


“ภัยสุขภาพจากสิ่งที่เราคิดว่าปลอดภัย เช่น น้ำประปาหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ อาจมีอยู่จริงแม้โอกาสจะน้อย การป้องกันตนเองไว้ก่อนจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด”


ขอบคุณข้อมูลจาก : ผศ.ดร.สงบ สนิท อาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา ,ผศ.ดร.ขวัญกมล ลิ้มโสภาธรรม อาจารย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา ,นพ.เควิน เจริญวิไลศิริ แพทย์ใช้ทุนประจำภาควิชาปรสิตวิทยา และ น.ส.ณัฏฐริณีย์ ก๋องต๊ะ นักเทคนิคการแพทย์ประจำภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช.


เรียบเรียง: นางสาวนันทพร ระบิน
ภาพ / ข่าว : กลุ่มงานสื่อสารองค์กร
งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
#อะมีบากินสมอง #MedCMU #คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #แพทย์เชียงใหม่ #แพทย์มช. #หมอสวนดอก #โรงพยาบาลสวนดอก #Medcmuในมือคุณ #สื่อสารองค์กรMedcmu

แกลลอรี่