นโยบายการบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

17 ธันวาคม 2562

ศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า  ในปี พ.ศ. 2562 มหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตามแผนพัฒนาการศึกษาฉบับที่ 12 และแผนงานที่ได้นำเสนอต่อสภามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อันจะนำไปสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำรับผิดชอบต่อสังคมและสร้างการพัฒนาสู่ความเป็นเลิศที่อย่างยังยืน โดยมียุทธศาสตร์การผลิตบัณฑิตที่มีคุณธรรม คุณภาพและมีทักษะการเป็นพลเมืองโลก ยุทธศาสตร์การวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศ และยุทธศาสตร์บริการวิชาการที่เกิดประโยชน์แก่สังคม จากใช้ศักยภาพความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภายใต้ยุทธศาสตร์เชิงรุก 3 ด้าน คือ นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน นวัตกรรมอาหารด้านสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ ล้านนาสร้างสรรค์

จากความมุ่งมั่นตั้งใจของชาว มช. ทุกภาคส่วน ตลอดระยะการดำเนินงานที่ผ่านมา เกิดเป็นผลลัพธ์ในด้านต่างๆ ดังนี้

ด้านสังคมและเศรษฐกิจ ภายใต้ความร่วมมือของทุกคณะ/ส่วนงาน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้สร้างให้เกิดผลทางสังคมเศรษฐกิจในระดับพื้นที่และประเทศคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ในปี 2562 ซึ่งเป็นผลงานที่เกิดจากนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน 790 ล้านบาท นวัตกรรมด้านอาหารและสุขภาพและการดูแลผู้สุงอายุ 450 ล้านบาท นวัตกรรมและองค์ความรู้ด้านล้านนาสร้างสรรค์ 70 ล้านบาท ผ่านการดำเนินโครงการต่างๆ เช่น โครงการส่งเสริมพัฒนาตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ SME, โครงการยกระดับธุรกิจเริ่มต้น (Boost up New Entrepreneurs), โครงการพัฒนาเครือข่ายงานหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านสร้างสรรค์เชียงใหม่, การพัฒนาระบบบริการเพื่อการดูแลภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างครบวงจร, โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP, โครงการน้ำตาลลำไย, การพัฒนาผลิตภณัฑ์ชุมชนตามหลักการ BEDO’s Concept และสรรหาชุมชนใหม่ : กลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ชา กาแฟ และเครื่องชงดื่ม, โครงการศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจร เป็นต้น

นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน790ล้านบาท

นวัตกรรมด้านอาหารและสุขภาพและการดูแลผู้สูงอายุ450 ล้านบาท


นวัตกรรมและองค์ความรู้ด้านล้านนาสร้างสรรค์ 70 ล้านบาท


โดยในปีที่ผ่านมามหาวิทยาลัย ได้บ่มเพาะและสร้างธุรกิจเกิดใหม่ (Startup) ได้ถึง 20 ราย อาทิ
นาวินพลัส จำกัด (วุ้นไคโตซานจับไขมัน) บริษัท ทีแกลเลอรี่ กรุ๊ป จำกัด (คอมบูชาชนิดเม็ดและแคปซูลเคลือบเอนเทอริก) ห้างหุ้นส่วนจำกัด บ้านการยะ (ยาสีฟันเจลป้องกันการอักเสบของเหงือก) รวมไปถึงการผลักดันนวัตกรรมและผลงานวิจัยไปสู่การใช้งานเชิงพณิชย์ ภายใต้บริษัท อ่างแก้ว โฮลดิ้ง จำกัด เช่น บริษัท พลังงานนครพิงค์ วิสาหกิจเพื่อชุมชน จำกัด (Biogas Scrubber Biogas Flare) บริษัท บีเอเอเค จำกัด (บริษัทงานวิ่งมาราธอนครบวงจร) เป็นต้น


ด้านการจัดการศึกษา ปีการศึกษา 2562 มหาวิทยาลัยรับนักศึกษาใหม่รับนักศึกษาระดับปริญญาตรี 7,642 คน ระดับบัณฑิตศึกษา 1,400 คน และมีบัณฑิตที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร 7,234 คน นอกจากนี้ ยังได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่ด้อยโอกาสได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยกว่า 500 คน โดยในจำนวนนี้มีนักศึกษาผู้พิการ 64 คน 

พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการรองรับสังคมผู้สูงอายุ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้จัดตั้งวิทยาลัยการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อส่งเสริมให้คนในสังคม ได้มีโอกาสเข้าถึงความรู้ตลอดทุกช่วงอายุ สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมี CMU MOOC เพื่อการเรียนรู้ที่ไร้ขีดจำกัด ผ่านระบบออนไลน์ ทุกที่ทุกเวลา

    

ด้านการวิจัย ในปี 2562 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ผลิตผลงานวิจัยหลายสาขา ส่งผลให้ได้รับการจัดอันดับที่ 96 ของเอเชียจาก QS Asian University Ranking โดยมีสาขาที่โดดเด่นติดอันดับโลก ได้แก่ สาขาการเกษตรและป่าไม้ สาขาการแพทย์ และสาขาวัสดุศาสตร์

ด้านการบริการวิชาการ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ให้บริการรักษาผู้ป่วยนอกปีละ 1,300,000 รายและผู้ป่วยในปีล่ะกว่า 50,000 ราย ผู้ป่วยฟื้นฟูสภาพระยะยาว กว่า 2,000 ราย และคณะแพทยศาสตร์ร่วมกับ คณะทันตแพทยศาสตร์ ออกหน่วยให้บริการประชาชนในพื้นที่ห่างไกลกว่า 30 ครั้ง มีผู้มารับบริการกว่า 3,000 คน เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์

ในส่วนของโครงการเด่นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในปี 2562 อาทิ
โครงการ Zero Waste CMU มีเป้าหมายเพื่อลดการนำขยะไปฝังกลบเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเริ่มตั้งแต่ต้นทางคือ รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติก กลางทางคือการคัดแยกขยะ และปลายทางคือการนำขยะไปแปรรูปให้เป็นพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินโครงการ Green and Clean campus สามารถลดการปล่อยปริมาณก๊าซเรือนกระจกลงได้กว่า 18,500 tonCO2

   


ศูนย์วิชาการสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือ เพื่อบูรณาการการแก้ไขปัญหาหมอกควันโดยใช้องค์ความรู้จากศาสตร์ต่างๆในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และร่วมมือกับองค์กรภายนอก เพื่อการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทุกภาคส่วนและยั่งยืน
ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศรีษะ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศ ตามพระราชดำริฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาและแก้ไขความพิการบนใบหน้า เช่น การแก้ปัญหาปากแหว่งเพดานโหว่ให้กับผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล จนถึงปัจจุบันมีผู้ป่วยด้อยโอกาสได้รับการรักษาแล้วกว่า 1,200 ราย


สำหรับการดำเนินงานที่สำคัญในปี 2563 มหาวิทยาลัยยังคงมุ่งพัฒนาภารกิจหลัก เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของสังคมในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และยังคงเน้นการเป็นมหาวิทยาลัยที่จะอยู่เคียงข้างชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ด้านการศึกษา จะมีการเพิ่มหัวข้อความรู้ใน CMU MOOC ให้ครอบคลุมสาขาต่างๆ และขยายให้มีผู้เข้าเรียนรู้มากขึ้น จากปัจจุบันมีผู้เข้ามาเรียนรู้แล้วกว่า 70,000 คน อีกทั้งตั้งเป้าเพิ่มผู้เข้าศึกษาในวิทยาลัยการเรียนรู้ตลอดชีวิต ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการพัฒนานักศึกษาไปสู่ Smart Students คือ เป็นทั้งคนดีและคนเก่ง ผ่านการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการเรียนรู้ ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เสริมกิจกรรมนักศึกษาที่สร้างสรรค์ ปลูกฝังความซื่อสัตย์ มีน้ำใจ และมีจิตอาสา พร้อมความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เพื่อก้าวสู่บัณฑิตที่มีคุณธรรม คุณภาพ และมีทักษะการเป็นพลเมืองโลก ตลอดจนได้ขยายโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้ครอบคลุมช่วงชั้นประถมศึกษาและอนุบาล อีกทั้ง ได้ดำเนินการสร้างศูนย์นวัตกรรมการสื่อสาร (Communication Innovation Center: CIC) คณะการสื่อสารมวลชน เพื่อพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ และการสื่อสารการตลาดดิจิทัล และผลิตสื่อมัลติมีเดียและสื่อออนไลน์

  


ด้านการวิจัยและนวัตกรรม เน้นสร้างสรรค์องค์ความรู้ที่ชุมชนและสังคมสามารถนำไปต่อยอดใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง โดยพัฒนานวัตกรรมที่เป็นจุดเน้นของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือ ด้านอาหารและการเกษตร ด้านสุขภาพและสังคมผู้สูงวัย ด้านพลังงานชีวภาพ ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการวิจัยขั้นแนวหน้า ที่จะนำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่สามารถนำไปต่อยอดให้เกิดประโยชน์ในอนาคต อาทิ โครงการจัดตั้งศูนย์วิจัย Quantum Computing ร่วมกับสถาบันอื่นๆ เพื่อให้เกิด Quantum Research Center ในระดับประเทศ

ตลอดจนพัฒนางานวิจัยและการบริการวิชาการตามโจทย์ BCG ของประเทศ เนื่องจากยุทธศาสตร์เชิงรุกของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่สอดคล้องกับ BCG ของรัฐบาล ส่งเสริมกลุ่มวิจัยที่เข้มแข็งของมหาวิทยาลัยและตอบโจทย์ประเทศ เช่น ศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจร, การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน และมาตรฐานการผลิตสินค้า OTOP เพื่อสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีสู่ผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต, การสร้างมูลค่าและคุณค่าหัตถกรรมชุมชน ด้วยนวัตกรรม 8 จังหวัด 40 ชุมชน และศูนย์เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ จากการสกัดสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพแบบครบวงจร เป็นต้น

ด้านบริการวิชาการ มุ่งพัฒนาและยกระดับเมืองเชียงใหม่ให้เป็น Medical Hub หรือเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ โดยมีการจัดสร้างอาคาร Medical Hub ที่คณะแพทยศาสตร์ และที่ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "หริภุญไชย" จังหวัดลำพูน สร้างอาคารศูนย์สุขภาพสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ เพื่อบริการวิชาการ การวิจัย และให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางสำหรับสัตว์เลี้ยง จัดสร้างศูนย์ส่งเสริมพฤฒิพลังผู้สูงอายุ (Senior Wellness Center) บริเวณริมแม่น้ำปิง ที่ ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อเป็นต้นแบบในการส่งเสริมการดูแลสุขภาพผู้สูงวัย แบบครบวงจร นอกเหนือจากด้านการแพทย์แล้ว ยังมีการสร้าง โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ เพื่อเป็นต้นแบบในการนำน้ำเสียกลับมาใช้ประโยชน์ได้ใหม่ให้แก่ชุมชนอีกด้วย 

ศูนย์ส่งเสริมพฤฒิพลังผู้สูงอายุ


อาคาร Medical Hub ที่คณะแพทยศาสตร์ และที่ศูนย์การศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ "หริภุญไชย" จังหวัดลำพูน


โรงปรับปรุงคุณภาพน้ำ

ศูนย์สุขภาพสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์


แกลลอรี่