กฟผ แม่เมาะ จับมือ มช. พัฒนาแพลตฟอร์มข้อมูลแบบออนไลน์เชื่อมโยงข้อมูลด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อม ดันแม่เมาะสู่เมืองอัจฉริยะคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์

18 สิงหาคม 2565

สถาบันวิจัยพหุศาสตร์

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม 65 ณ ห้องมุ่งงานเลิศ อาคารประชาสัมพันธ์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ จ.ลำปาง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการเมืองแม่เมาะเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ มุ่งสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์” (Mae Moh Smart and Livable City Towards Climate Change Net Zero) โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายจรัญ คำเงิน ผู้ช่วยผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า 2 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ร่วมลงนามฯ โดยมี คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สัญชัย จตุรสิทธา ผู้อำนวยการพร้อมด้วยผู้บริหารสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองศาสตราจารย์ ดร.เศรษฐ์ สัมภัตตะกุล หัวหน้าโครงการฯ และ ดร. รัตชยุดา กองบุญ นักวิจัย  ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี และนางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำปาง ให้เกียรติเป็นประธานและการลงนามดังกล่าว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จะได้นําองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม มาจัดทําฐานข้อมูลด้านพลังงานและ สิ่งแวดล้อมในพื้นที่อําเภอแม่เมาะและจังหวัดลําปาง เพื่อจัดทําระบบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data system) ด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์ จัดทําแผนที่ความเสี่ยงด้านพลงังานและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ กำหนดและเสนอแนวทางในการ พัฒนาเมือง และแนวทางในการรับมือกับปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ที่มุ่งสู่การ เป็นเมืองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) เพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่ สามารถบริหารจัดการข้อมูล และพัฒนาเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทําให้ประชาชน ในพื้นที่มีความรู้ความเข้าใจและเกิดการตระหนักในการป้องกัน รับมือและเตือนภัยได้ ซึ่งจะทําให้เกิดสิ่งแวดล้อมที่ดีเหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน และยังเป็น ประโยชน์ต่อส่วนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถนําข้อมูลไปใช้ในการวางแผนหรือนโยบายการพัฒนาเมืองได้อย่างเหมาะสม โดยทั้งสองหน่วยงานมีระยะเวลาการดำเนินโครงการร่วมกันภายในระยะเวลา 3 ปี