3 กุมภาพันธ์ 2564
ศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์
มช. ฮอมผญาปัญญานักวิชาการและเครือข่าย เสริมพลังคนล้านนาสู้วิกฤตช่วงโควิด 19
รศ. ดร. อาวรณ์ โอภาสพัฒนกิจ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ตั้งแต่กลางเดือนมกราคม ปี 2563 ท้องถิ่นล้านนาเริ่มเกิดวิกฤตรุนแรงเนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อ “โคโรน่าไวรัส 2019” (COVID 19) ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไม่มีงานทำ บัณฑิตจบใหม่ที่ยังตกงาน ผู้ถูกเลิกจ้างงาน รวมทั้ง ผู้ประกอบการที่ต้องปิดกิจการ ในฐานะรองอธิการบดีฝ่ายบริการวิชาการและรับใช้สังคม มีความตระหนักว่า วิกฤตเนื่องจากโควิด 19 นี้ นับเป็นโอกาสที่ดียิ่งของผู้บริหาร นักวิชาการและนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งเครือข่ายทั้งระดับชุมชน ท้องถิ่น ระดับชาติและนานาชาติ ได้มีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็น “งานหน้าหมู่” (งานส่วนรวม) เพื่อเป็นการตอบแทนคุณท้องถิ่นล้านนา ที่เป็นบ้านเกิด หรือ เป็นเมืองนอน ได้อยู่อาศัยและทำมาหากิน ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ มช. ที่ว่า “มหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่รับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาที่ยั่งยืน”
โครงการจ้างงานประชาชนฯ โดยกระทรวง อว. ร่วมฮอมงบประมาณ
นับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เห็นความจำเป็นในการเพิ่มศักยภาพผู้ที่ได้รับผลกระจากโควิด 19 และได้สนับสนุนงบประมาณให้มหาวิทยาลัยของรัฐ ภายใต้ “โครงการจ้างงานประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) ระยะที่ 2” โดยกำหนดจ้างงานเป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2563) อัตราค่าตอบแทนเดือนละ 9,000 บาท หรือ วันละ 300 บาท/วัน ในกรณีที่ทำงานไม่ครบ 30 วัน/เดือน
มช. ฮอมผญาปัญญานักวิชาการและนักศึกษา
โครงการจ้างงานประชาชนฯ ของกระทรวง อว. นี้เอง เป็นปัจจัยกระตุ้น ให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยหน่วยสนับสนุนวิชาการรับใช้สังคม ได้เริ่มเอื้ออำนวยให้เกิด “กระบวนการฮอมผญาปัญญาของนักวิชาการ มช.” โดยการสื่อสารเชิญชวนคณาจารย์และนักวิจัยทุกคน ทุกช่องทางและทุกรูปแบบ ทำให้ได้ นักวิชาการ มช. ที่สมัครใจและมีความพร้อมที่จะเป็น “พี่เลี้ยง” สร้างการเรียนรู้ของประชาชนที่ได้รับการจ้างงาน จำนวน 133 คน 28 คณะ/ส่วนงาน ซึ่งได้เสนอโครงการย่อยจำนวน 333 โครงการ สามารถรองรับการจ้างงานประชาชนได้ถึง 2,963 คน
ฮอมผญาปัญหาของเครือข่ายในท้องถิ่นล้านนา
การที่คณาจารย์และนักวิจัย 133 ราย สามารถเสนอโครงการได้ถึง 333 โครงการนั้น ส่วนหนึ่งเป็นการต่อยอดการทำงานกับชุมชนเดิมที่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ เป็นโครงการที่นักวิชาการ มช. ได้ร่วมมือกับเครือข่ายในท้องถิ่นล้านนา ทั้งภาครัฐ NGOs ผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน จำนวน 15 องค์กร/ราย อาทิเช่น เครือข่าย Young Smart Farmer ภาคเหนือตอนบน และ YSF จังหวัดเชียงใหม่ /เครือข่ายผู้ประสานงานและนักวิจัยเพื่อท้องถิ่น (Community-Based Research: CBR) ภาคเหนือตอนบน /องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้ง อบต. เทศบาล และ อบจ. /สำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 จังหวัดเชียงใหม่ /สภาลมหายใจเชียงใหม่ มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนและ SME /เครือข่าย อพ. สธ. ภาคเหนือตอนบน/ ศูนย์วิจัยชุมชน วช. /เครือข่าย PODD เป็นต้น “การฮอมผญาระหว่างนักวิชาการ มช. และ เครือข่าย” ข้างต้น ทำให้สามารถรองรับผู้รับการจ้างงานได้ถึง 2,963 ราย และทำให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับงบประมาณสนับสนุนโครงการจ้างงานประชาชนฯ ระยะที่ 2 จาก กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จำนวน 80,001,000 บาท นับเป็นความภาคภูมิใจของบุคลากรมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และเครือข่ายอย่างยิ่ง ที่ได้มีส่วนช่วยสร้างการเรียนรู้ของประชาชนที่ตกงานในช่วงวิกฤติโควิด 19

กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ ร่วมฮอมพญา
การฮอมผญาครั้งนี้ ได้รับความเมตตาจากกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดและสร้างแรงบันดาลใจ ตั้งแต่ช่วงกิจกรรมปฐมนิเทศ จนถึงช่วงติดตามผลการดำเนินงานของโครงการ ในเดือนกันยายน
จากวิกฤตเป็นโอกาส: เฮียน ฮู้ ปฏิบัติ และปรับกำกึ๊ด
ผลการดำเนินงานโครงการที่ดำเนินงานได้ครบทั้ง 3 เดือน จำนวน 295 โครงการ มีผู้รับจ้างงานทั้งหมด 2, 873 คน ใช้งบประมาณ ทั้งสิ้น 73,506,748.30 บาทในช่วงเวลา 3 เดือน ผู้รับการจ้างงานทั้ง ทุกคน ได้รับค่าตอบแทนที่ช่วยวิกฤตทางเศรษฐกิจ ทุกคนได้โอกาสของการ เฮียน ฮู้ ปฏิบัติ และ ปรับกำกึ๊ด (เรียน รู้ ปฏิบัติ และปรับความคิด) ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยสอน ผู้ช่วยวิจัย การเก็บข้อมูลในชุมชน การฝึกทักษะด้วยการลงมือปฏิบัติจริงในสถานการณ์จริง ทั้งในห้องปฏิบัติการ ในห้องเรียน ในชุมชนและในสถานประกอบการ การบันทึกสิ่งที่ได้รู้และปฏิบัติ การเขียนสะท้อนการเรียนรู้และการปรับวิธีคิด รวมทั้ง การได้ทำงานต่อเนื่องหลังจากโครงการเสร็จสิ้น เป็น 3 เดือนที่ทำให้เกิดการพัฒนาศักยภาพ จากตกงาน ว่างงาน มาเป็นผู้เรียน จากไม่รู้ เป็นได้รู้ลึกซึ้งมากขึ้น จากทำไม่เป็น มาเป็นทำได้และทำได้ดี จากไม่คิด มาเป็นเริ่มคิด คิดดี คิดสร้างสรรค์ ทำให้ทุกคนพร้อมเผชิญกับเงื่อนไขใหม่ ในแบบที่เปลี่ยนไปจากเดิม คือพร้อมเรียน เพื่อให้รู้ลึก รู้จริง พร้อมปฏิบัติเพื่อให้เกิดทักษะและความเชี่ยวชาญ และ พร้อมปรับวิธีคิดใหม่ที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและคนรอบข้าง
ติดตาม File บทความ/ข่าว ได้ที่ www.se.acmu.ac.th และ Email: paansiritidasongnoijjaa@gmail.com