มช. ผนึกกำลังกรมศิลป์ฯ อนุรักษ์ และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน

20 มกราคม 2566

ศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์


                ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย มหาเอก รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการเพื่อการอนุรักษ์และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน ระหว่าง กรมศิลปากร กับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2566 ณ ห้องประชุมพระยาศรีวิสารวาจา สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมีผู้บริหารระดับสูง คณบดี และคณาจารย์จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ รวมทั้งรองอธิบดี และผู้บริหารระดับสูงของกรมศิลปากร ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม
บันทึกข้อตกลงที่ได้ลงนามในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อร่วมกันศึกษา ค้นคว้า วิจัย แลกเปลี่ยนวิทยาการและข้อมูลสารสนเทศ เพื่อการอนุรักษ์และการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน ตลอดจนการบริหารจัดการมรดกทางวัฒนธรรม เพื่อนำไปสู่การร่วมกันปกป้องคุ้มครองและดูแลรักษาโบราณสถานไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ร่วมกันจัดโครงการหรือกิจกรรมทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ การสงวนรักษา การบูรณปฏิสังขรณ์ และการทำนุบำรุงโบราณสถาน ตลอดจนเผยแพร่ประชาสัมพันธ์องค์ความรู้ในด้านต่าง ๆ สู่ชุมชน รวมทั้งร่วมกันศึกษาและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำข้อมูลของโบราณสถาน และแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมประเภทอื่น ๆ
               ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกชัย มหาเอก รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า “ความร่วมมือกับกรมศิลปากร ในวันนี้ จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกันในการพัฒนาองค์ความรู้และสร้างนวัตกรรมทางด้านการอนุรักษ์ และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน รวมทั้งปกป้องคุ้มครองและดูแลรักษาโบราณสถานในเขตภาคเหนือให้คงไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติต่อไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาที่ยังยืน (Sustainable Development Goals: SDG) และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รวมทั้งการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคม และการพัฒนาที่ยั่งยืนดังค่านิยมด้าน Community Engagement การเชิดชูรับใช้สังคม โดยมุ่งเน้นท้องถิ่นและมีความรับผิดชอบต่อสังคม”
ด้านนายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ได้กล่าวถึงความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ในครั้งนี้ว่า “อันว่าความหมายของความร่วมมือนั้น แปลว่าไม่ได้มีเพียงหนึ่ง จะต้องมีสองมือถึงจะร่วมมือกันได้ ผมเองเห็นถึงความสำคัญในการร่วมมือทางวิชาการ การร่วมมือนั้นสร้างความเข้มเเข็ง มิใช่เพื่อเเข่งขัน ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือในวันนี้ จะช่วยให้กรมศิลปากรทำงานได้สะดวกขึ้น เร็วขึ้น และง่ายขึ้น ขอขอบคุณในไมตรีจิตของมช. ที่ได้เสนอสิ่งดีๆให้กับกรมศิลปากร” และยังได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ด้วยว่า “การลงนามครั้งนี้จะเป็นนิมิตหมายอันดีต่อการประสานความร่วมมือ เพื่อความก้าวหน้าทางวิชาการของทั้งสองฝ่ายในการอนุรักษ์ และบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถาน ให้คงไว้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติต่อไป”


รายละเอียดประกอบข่าว : กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักงานมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
 

แกลลอรี่