มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จับมือ CPN สร้างระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ ขยะมีราคา เพื่อเมือง ชุมชน และอนาคตที่ยั่งยืน นำเสนอบนเวทีเสวนา “Earth Jump 2025: Transition Thru Turbulence” ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญก้าวสำคัญของการพัฒนา ที่นอกจากจะส่งเสริมการรักษาสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าขยะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้จริง ผ่านโมเดล “Circular Economy” ที่เชื่อมโยงการจัดการขยะอินทรีย์จากศูนย์การค้าและร้านอาหารให้กลับมาเป็นทรัพยากรใหม่อย่างเป็นระบบ
รองศาสตราจารย์ ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับเกียรติเข้าร่วมเป็นวิทยากรในเวทีเสวนา “Earth Jump 2025: Transition Thru Turbulence” ณ Paragon Hall ศูนย์การค้าสยามพารากอน ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ “Circular Economy and Waste Management – An Unmissable Climate Solution” โดยได้นำเสนอแนวทางการจัดการขยะที่เป็นรูปธรรมของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมยกตัวอย่างความร่วมมือกับภาคเอกชนในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างมีประสิทธิภาพ
ในเวทีดังกล่าว รองศาสตราจารย์ ประเสริฐ ฤกษ์เกรียงไกร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้นำเสนอ “โมเดลขยะเป็นพลังงาน” ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ดำเนินการผ่าน ศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจร ภายใต้แนวคิด Circular Economy โดยมีศักยภาพในการจัดการขยะรวมกว่า 30 ตันต่อวัน จากแหล่งต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย ขยะเหล่านี้ประกอบด้วยขยะอินทรีย์ 11.85 ตัน, RDF 9.60 ตัน, แก้ว 0.90 ตัน, และขยะอื่น ๆ อีกหลากหลายชนิด ซึ่งทั้งหมดจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการแปรรูปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การผลิตก๊าซชีวภาพ (Biogas), ปุ๋ยหมัก (Compost), และการนำกากชีวมวลกลับมาใช้ประโยชน์ (Sludge Reuse) เพื่อลดการฝังกลบขยะและลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์
ผลลัพธ์จากระบบนี้สามารถสร้างมูลค่ารวมได้สูงถึง 1,500–2,000 บาทต่อตันขยะ โดยแบ่งเป็นมูลค่าจากการผลิต Biogas (220 บาท/ตัน), การลดการปล่อย CO? ได้ประมาณ 200 กิโลกรัม/ตัน, และการลดต้นทุนด้านการขนส่งถึง 1,000 บาท/ตัน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดภาระของสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าขยะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้จริง ทั้งในระดับมหาวิทยาลัย ชุมชน และประเทศ
“Circular Economy” จุดเด่นโมเดลความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (CPN) เชื่อมโยงการจัดการขยะอินทรีย์จากศูนย์การค้าและร้านอาหารให้กลับมาเป็นทรัพยากรใหม่อย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการรวบรวมขยะอินทรีย์กว่า 100 ตันต่อปีจาก Central Airport และร้านอาหารในเขตเทศบาลเมืองแม่เหียะ ส่งต่อมายังศูนย์บริหารจัดการชีวมวลแบบครบวงจรของมหาวิทยาลัย ที่สามารถแปรรูปขยะเหล่านี้ให้กลายเป็นพลังงานสะอาด เช่น ก๊าซชีวภาพอัด (CBG) ไฟฟ้า และปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งช่วยลดการฝังกลบ ลดการปล่อยคาร์บอน และลดต้นทุนการจัดการขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผลผลิตที่ได้จากกระบวนการแปรรูปเหล่านี้ถูกส่งต่อให้กับเกษตรกรในเครือข่ายของคณะเกษตรศาสตร์ มช. เพื่อนำไปใช้ในแปลงเกษตรอินทรีย์ และสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการแปรรูปและจำหน่ายในศูนย์การค้าของ CPN กลับคืนสู่ผู้บริโภคอีกครั้ง กลายเป็นห่วงโซ่ Circular Supply Chain ที่สมบูรณ์แบบ โมเดลนี้จึงเป็นตัวอย่างสำคัญของการบริหารจัดการขยะเชิงบูรณาการ ที่ทุกภาคส่วนในระบบ ตั้งแต่ผู้บริโภค ภาคธุรกิจ ไปจนถึงภาคการศึกษาสามารถร่วมกันเปลี่ยนของเสียให้เป็นพลังและคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมได้อย่างแท้จริง
โมเดลความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และ CPN จึงถือเป็นตัวอย่างสำคัญของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่สามารถนำไปปรับใช้ในระดับชุมชนและเมืองใหญ่ได้จริง พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้ภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันสร้างระบบการจัดการของเสียที่สร้างคุณค่าร่วมแก่ทุกฝ่ายอย่างยั่งยืน